รวมบทกวี พลัดหลงไปในห้วงเวลาของนักมายากล ของ วิสุทธิ์ ขาวเนียม แบ่งการนำเสนอเนื้อหาออกเป็น 3 ภาค ประกอบด้วยภาคแรก “หลับฝันอยู่ในกระเพาะนกกระจาบ” กวีย้อนภาพชีวิตของผู้คนพื้นถิ่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างมีชีวิตชีวา ผ่านยามเช้าอันชุ่มเย็นด้วยสายฝนจากอิทธิพลของมรสุมเขตร้อนเหนือคาบสมุทรมลายู  อบอวลด้วยกลิ่นดอกไม้พื้นบ้านนานาพรรณ  ผ่านชีวทัศน์อันอ่อนโยนของกวีผู้ศรัทธาในวิถีแห่งเกษตรกรรมที่ให้เห็นความเชื่อมโยงของสรรพสิ่งในธรรมชาติรอบตัว  ก่อนนำเสนอภาพความเปลี่ยนแปลงในภาคสอง “พลัดหลงไปในห้วงเวลาของนักมายากล” บอกเล่าสถานการณ์ความรุนแรงทางภาคใต้ที่สร้างความหวาดระแวงในใจของผู้คน เกิดสภาวะ “เมธีหลงทาง” เมื่อชุดความคิดและวาทกรรมกระแสหลักไม่สามารถอธิบายความซับซ้อนของปรากฏการณ์ทางสังคมไทยได้ กวีแสดงภูมิรู้ทางคติชนวิทยาโดยเฉพาะวิถีชีวิตชาวบ้านภาคใต้ได้อย่างมีสีสันชวนขบคิด  กวีเห็นว่าไม่มีเวทมนตร์จากพ่อมดตนใดที่จะเสกสร้างสังคมหม่นมัวได้เท่าจิตใจของผู้คน  และในภาคสุดท้าย “จำนวนที่เหลือของนกฝูงหนึ่ง” เหมือนจะสื่อเป็นนัยถึงผู้คนที่ผ่านการพลัดหลงจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในภาคที่สองมาแล้ว        และยังต้องประสบชะตากรรมที่หลากหลาย  โดยเฉพาะคนเล็กคนน้อยที่มีส่วนร่วมอยู่ในประวัติศาสตร์แต่กลับถูกเพิกเฉยไร้ความสำคัญไม่ต่างจาก “เศษเสี้ยวของก้อนหินพันปี” ขณะที่โลกเสมือนในโซเชียลเน็ตเวิร์กก็ไม่ต่างจากเวทมนตร์ยุคใหม่ที่ทำให้เราหลงใหลได้ปลื้มจนลืมรากเหง้าของตน

ในด้านการใช้ภาษา กวีสามารถใช้โวหารกวีที่เฉียบคมลึกซึ้งหลากหลายรูปแบบ ชวนขบคิดตีความตามประสบการณ์ของผู้อ่าน อาทิ เปรียบเทียบเรื่องการยึดกุมอำนาจและการต้องตกเป็นเบี้ยล่างของประชาชนผ่านบทกวี “ในลำไส้วัวหนุ่ม” ซึ่งโดดเด่นในการใช้โวหารกวีที่แปลกต่างจากขนบอันคุ้นชิน

ดังนั้น รวมบทกวี  พลัดหลงไปในห้วงเวลาของนักมายากล ของ วิสุทธิ์ ขาวเนียม จึงสมควรได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทกวีนิพนธ์ ประจำปีพุทธศักราช 2560