บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) โดยสำนักกิจการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม จัดงานรับโล่พระราชทาน รางวัลหนังสือดีเด่น “เซเว่นบุ๊คอวอร์ด” ครั้งที่ 18 และครั้งที่ 19 โดยมีศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย กรรมการกิตติมศักดิ์โครงการประกวดหนังสือดีเด่นรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด เป็นประธานมอบรางวัล และแสดงปาฐกถาพิเศษเรื่อง “การอ่าน” โดยมีนักเขียน นักวาดการ์ตูน นักเขียนรุ่นเยาว์ ตลอดจนผู้แทนสำนักพิมพ์ต่าง ๆ เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
นายประสิทธิ์ ฉกาจธรรม รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาความ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาโครงการประกวดหนังสือดีเด่นรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ได้คัดสรรหนังสือดีมีคุณภาพทั้ง 7 ประเภทสู่สังคม ประกอบด้วย กวีนิพนธ์, การ์ตูน, นวนิยาย, รวมเรื่องสั้น, วรรณกรรมสำหรับเยาวชน, สารคดี (ทั่วไป) และรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมนักเขียนคุณภาพ และสนับสนุนผลงานที่มีเนื้อหาจรรโลงสังคม มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รวมถึงส่งเสริมให้เยาวชนพัฒนาตนเองด้านการอ่านการเขียน
“โครงการประกวดหนังสือดีเด่นรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด เป็นโครงการที่บริษัทมุ่งหวังให้เป็นเวทีเชิดชูและเป็นกำลังใจให้นักเขียนไทยได้พัฒนาฝีมือหรือผลิตผลงานที่มีคุณภาพ กระทั่งก้าวสู่การจัดประกวดครั้งที่ 20 ได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง และเป็นเจตนารมณ์ที่จะมุ่งมั่นส่งเสริมการอ่าน การเขียน และการเรียนรู้เป็นหนทางของการพัฒนาคนนำไปสู่การพัฒนาประเทศชาติ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของซีพี ออลล์ ในด้านการส่งเสริมการศึกษา พัฒนาเยาวชนที่ดำเนินการอย่างจริงจังต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม และยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมหนังสือดีมีคุณภาพให้สังคมไทย ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนและร่วมสร้างวัฒนธรรมการอ่าน การเขียน การเรียนรู้ และมุ่งสู่สังคมอุดมปัญญาในอนาคตอันใกล้ ”
ในครั้งที่ 18 มีผลงานประเภทต่าง ๆ ส่งเข้าประกวดรวมทั้งสิ้น 190 เล่ม โดยผลการตัดสิน มีดังนี้
ประเภทกวีนิพนธ์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 มี 2 รางวัลได้แก่ เรื่อง ประเทศในเขาวงกต โดย ศิริวร แก้วกาญจน์ พิมพ์โดย ผจญภัยสำนักพิมพ์ และเรื่อง เรื่องจริงจริง ในโลกลวงลวง โดย วรภ วรภา พิมพ์โดย สำนักพิมพ์ดินแดนบุ๊ค, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ เรื่อง หัวใจป่า โดย พล พิมพ์โพธิ์ พิมพ์โดย สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรังสิต และยังมีรางวัลเสริมสร้างกำลังใจ จากเรื่อง ฮ่วงเฮ้า โดย คำเมือง ราวะรินทร์ พิมพ์โดยสาระฅนสำนักพิมพ์ โดยการประกวดครั้งที่ 18 ไม่มีหนังสือเล่มใดได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทกวีนิพนธ์
ประเภทการ์ตูน รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เรื่อง LOST & FOUND โดย manasawii และ 19.04 พิมพ์โดย สำนักพิมพ์ฟูลสต็อป, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่เรื่อง My Playlist โดย มุนินฺ พิมพ์โดย สำนักพิมพ์ 10 มิลลิเมตร และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่เรื่อง การเดินทางของบรรณาธิการ โดย บ.ก.ซัน พิมพ์โดยบริษัท สตาร์พิคส์ จำกัด
ประเภทนวนิยาย รองวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่เรื่อง หากข้ามคืนนี้ หัวใจไม่แหลกยับเยินเสียก่อน โดย รมณ กมลนาวิน พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ RamonaSays Publisher (2020) และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่เรื่อง แด่ความคิดถึง โดย ทนุธรรม พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ปลาคาร์ป โดยการประกวดครั้งที่ 18 ไม่มีหนังสือเล่มใดได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทนวนิยาย
ประเภทรวมเรื่องสั้น รางวัลชนะเลิศ ได้แก่เรื่อง คืนปีเสือและเรื่องเล่าของสัตว์อื่น ๆ โดย จเด็จ กำจรเดช พิมพ์โดยผจญภัยสำนักพิมพ์, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่เรื่อง สลายสิ้นซึ่งความหวังรังรอง โดย ตินกานต์ พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ระหว่างบรรทัด และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่เรื่อง บินไปเหนือสะพานข้ามดาว โดย วิชชา ลุนาลัย พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ดินแดนบุ๊ค
ประเภทวรรณกรรมสำหรับเยาวชน รางวัลชนะเลิศ ได้แก่เรื่อง BECOMING A BUTTERFLY การเดินทางของผีเสื้อหลากสี โดย เมริษา ยอดมณฑป พิมพ์โดยสำนักพิมพ์แมงมุมบุ๊ก, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ เรื่อง แมววัด โดย ยูโตะ ฟุคะยะ พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ผีเสื้อเด็ก ๆ และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ เรื่อง ทุ่งหญ้า ป่าข้าว เจ้าเขากาง และผม โดย เอกอรุณ พิมพ์โดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์
ประเภทสารคดี (ทั่วไป) รางวัลชนะเลิศ ได้แก่เรื่อง ลมพัดมิรู้ล่วงหน้า : จารึกโรงสี ลูกจีนโพ้นทะเล โดย สุกัญญา หาญตระกูล พิมพ์โดยสำนักพิมพ์สารคดี, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่เรื่อง ให้โลกทั้งหลายเขาลือ : “เสด็จเตี่ย” กรมหลวงชุมพรฯ พิมพ์โดยสำนักพิมพ์สารคดี และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่เรื่อง ทักษะความสุข โดย นิ้วกลม พิมพ์โดยสำนักพิมพ์คู้บ (KOOB) และรางวัลหนังสือแนะนำ 3รางวัล ได้แก่เรื่อง จากศึกบางกุ้งถึงศึกอะแซหวุ่นกี้: เผยโฉมยุทธศาสตร์พม่ารบไทยยุคธนบุรี โดย ศ.ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ พิมพ์โดยสำนักพิมพ์เมืองโบราณ, โปรดโอบกอดมนุษย์ลูก โดย วีรพร นิติประภา พิมพ์โดยสำนักพิมพ์แซนด์คล็อคบุ๊คส์, ERAMUS GENERATION โดย พชร สูงเด่น พิมพ์โดยสำนักพิมพ์แซลมอน
ประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวดกวีนิพนธ์ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่เรื่อง สถานกาลบังคับ โดยณรงค์ชัย แสงอัคคี, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 มี 2 รางวัล ได้แก่เรื่อง เพลงรักจากตักแม่ โดยวัชระ บุญทานัง และเรื่อง หมอกสางม่าน โดย นนทพัทธ์ หิรัญเรือง รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2ได้แก่เรื่อง แผนแผ่นพ่างเมืองแมน โดย ปรัชญา พวงเพ็ชร และรางวัลเสริมสร้างกำลังใจ ได้แก่เรื่อง พิชิตโควิดด้วยจิตกวี โดย ด.ญ.รินรัก แซ่โค้ว
สำหรับครั้งที่ 19 มีผลงานประเภทต่าง ๆ ส่งเข้าประกวดรวมทั้งสิ้น 215 เล่ม โดยผลการตัดสินมีดังนี้
ประเภทกวีนิพนธ์ รางวัลชนะเลิศได้แก่เรื่อง จนกว่าโลกจะโอบกอดเราเอาไว้ โดย ปาลิตา ผลประดับเพ็ชร์, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่เรื่อง นาฏกรรมจำนรรจ์ โดย ศิวกานท์ ปทุมสูติ พิมพ์โดย ผจญภัยสำนักพิมพ์, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่เรื่อง ดวงตากวี โดย รินศรัทธา กาญจนวตี พิมพ์โดย สำนักพิมพ์ออน อาร์ต และรางวัลยกย่องการสืบสานวรรณศิลป์ท้องถิ่น ได้แก่เรื่อง ดอย ฟ้า นา แม่ โดย วิลักษณ์ ศรีป่าซาง พิมพ์โดย สีสันพรรณไม้
ประเภทการ์ตูน รางวัลชนะเลิศได้แก่เรื่อง WHALE HUNTERS (นักล่าวาฬ) โดย จเด็จ กำจรเดช พิมพ์โดย สำนักพิมพ์เวลา, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่เรื่อง วิ่ง…สู่ชีวิตใหม่ : RUN FON NEW LIFE ฉบับการ์ตูน โดย เรืองศักดิ์ ดวงพลา, THE DUANG, สุดใจ พรหมเกิด พิมพ์โดยมูลนิธิสร้างเสริมวัฒธรรมการอ่าน ร่วมกับแผนระบบสื่อและวิถีสุขภาวะทางปัญญา และแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกาย สำนักกองทุนสนันสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่เรื่อง HAVE GOOD DIE วันนี้คือวันตายของเจ้า! โดย PPONG พิมพ์โดยสำนักพิมพ์แซลมอน
ประเภทนวนิยาย รางวัลชนะเลิศได้แก่เรื่อง รถเที่ยวสุดท้ายจากพญาตองซู โดย สุมาตร ภูลายยาว สำนักพิมพ์บ้านแม่น้ำ, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่เรื่อง เดฟั่น เรื่องเล่าของตระกูลคนเฆี่ยนเสือจากไทรบุรี โดยศิริวร แก้วกาญจน์ พิมพ์โดยผจญภัยสำนักพิมพ์, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่เรื่อง วินาทีไร้น้ำหนัก โดยวุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ พิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน และรางวัลกำลังใจสร้างสรรค์ ได้แก่เรื่องคนจรดาบ โดยวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง พิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน
ประเภทรวมเรื่องสั้น รางวัลชนะเลิศ ได้แก่เรื่อง สเปโร โซนาตา ท่วงทำนองแห่งความหวังโดย รมณ กมลนาวิน พิมพ์โดยสำนักพิมพ์สำเภา รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1ได้แก่เรื่อง Family Comes First ด้วยรักและผุพัง โดย นริศพงศ์ รักวัฒนานนท์ พิมพ์โดยสำนักพิมพ์แซลมอน และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่เรื่องบ้านที่กลับไม่ได้ โดย บุญเลิศ วิเศษปรีชา พิมพ์โดยสำนักพิมพ์มูลนิธิกระจกเงา
ประเภทวรรณกรรมสำหรับเยาวชน รางวัลชนะเลิศ ได้แก่เรื่อง ด.ช. ตุ้ม โดย สุรศักดิ์ กฤษณมิษ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่เรื่อง เจ้าหนูผู้พิทักษ์แห่งเกาะลิบง โดย กิติศักดิ์ ศรีแก้วบวร และในปีนี้ ประเภทวรรณกรรมสำรับเยาวชน ไม่มีหนังสือที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1
ประเภทสารคดี (ทั่วไป) รางวัลชนะเลิศ ได้แก่เรื่อง หลังบ้านคณะราษฎร : ความรัก ปฏิวัติ และการต่อสู้ของผู้หญิง โดย ชานันท์ ยอดหงษ์ พิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่เรื่อง มนุษย์ซึมเศร้ากับเรื่องเล่าสีขาวดำ โดย กิตติศักดิ์ คงคา พิมพ์โดยสำนักพิมพ์13357, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่เรื่อง 2475 ราษฎรพลิกแผ่นดิน โดย นริศ จรัสจรรยาวงศ์ พิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน และรางวัลหนังสือแนะนำ 4 รางวัล ได้แก่เรื่อง รักเกิดก่อนกำเนิด เกิดก่อนกำหนด โดย แพทย์หญิงดาริน จตุภัทรพรและชิดชนก ชูช่วย พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ SOOK Publishing , เรื่อง ส่องลายคราม สืบหาจีนกรุงศรีฯ โดย ประไพ พิศาลบุตร พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ซิลค์เวอร์ม, เรื่อง Nose Note บันทึกเรื่องกลิ่นจากปลายจมูก ฝนตกข้างบ้านถึงจักรวาลอันไกลโพ้น โดยกันต์นที นีระพล พิมพ์โดยสำนักพิมพ์อะโวคาโดบุ๊กส์ , World War Tools สงครามโลกในสิ่งของ โดย มนสิชา รุ่งชวาลนนท์ พิมพ์โดยสำนักพิมพ์แซลมอน
ประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวดกวีนิพนธ์ รางวัลชนะเลิศได้แก่เรื่อง ละไว้ในฐานที่คิดถึง โดย พิริยภูมิ หง่อยกระโทก รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่เรื่อง เราอาจกลัวและเพรียกถามทางกลับบ้านโดย ณรงค์ชัย แสงอัคคี และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่เรื่อง แสงหนึ่งคือรุ้งงาม โดย นานาฮาระ ฮิเดยูกิ
สำหรับผู้ชนะเลิศ “เซเว่นบุ๊คอวอร์ด” ทั้ง 6 ประเภท จะได้รับรางวัลเงินสด 100,000 บาท พร้อมโล่พระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ส่วนประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ รวม 4 หมวด คือ กวีนิพนธ์ การ์ตูน นวนิยายขนาดสั้น และรวมเรื่องสั้น ผู้ชนะเลิศจะได้รับรางวัลเงินสด 20,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 15,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร เพื่อเป็น กำลังใจในการสร้างสรรค์งานเขียนต่อไป
สำหรับโครงการประกวดหนังสือดีเด่นรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 20 เปิดรับผลงานเข้าประกวดรวม 7 ประเภท ได้แก่ กวีนิพนธ์ การ์ตูน นวนิยาย รวมเรื่องสั้น วรรณกรรมสำหรับเยาวชน สารคดี (ทั่วไป) และรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ ชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อยู่ระหว่างดำเนินการ) และเงินรางวัล 100,000 บาท (สำหรับรางวัลชนะเลิศ ยกเว้นประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์) โดยเปิดรับผลงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 – วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.csrcpall.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2071-2903