Orlando in a Glimpse หากเล่าถึงออร์ลันโด เป็นนวนิยายแนวเควียร์กอธิค (Queer Gothic Literature) ที่ดำเนินเรื่องภายใต้ท้องฟ้าเจิดจ้าในช่วงฤดูร้อนแสนสั้นของอิตาลี ผ่านตัวละครหลักคือเด็กสาวชาวไทยชื่อเจ๋ ซึ่งเป็นผู้เล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบโดยใช้สรรพนามแทนตัวว่า “ผม”
หลังจบ ม.๖ ก่อนมหาวิทยาลัยเปิดภาคเรียน เจ๋ ได้เดินทางไปท่องเที่ยวอิตาลีครั้งแรกโดยอาศัยอยู่ที่บ้านลุงโจ—พี่ชายแท้ ๆ ของแม่ ซึ่งได้แต่งงานกับป้ามาติลดา เจ้าของโรงแรมเก่าแก่ในเมืองเซียนา ที่นั่น..เจ๋ได้พบจูเลีย ลูกสาวของลุงกับป้า และได้รับรู้เรื่องราวของออร์ลันโด พี่ชายสุดที่รักของเธอและลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของป้า นักเปียโนฝีมือฉกาจ ผู้มีรูปลักษณ์ราวเทพที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีก่อน
เหตุการณ์แปลกประหลาดทยอยเกิดขึ้นเป็นระลอกนับจากวันที่เจ๋ได้ยินเสียงบรรเลงเปียโนไร้ที่มากลางจัตุรัสโล่งกว้าง ไปจนถึงวันที่ปริศนาการตายของออร์ลันโดได้รับการเปิดเผย
สาเหตุการตายก่อนเวลาอันควรนี้ ชูประเด็นสำคัญที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอในเรื่องเกี่ยวกับ “พื้นที่” และการยอมรับใน “ตัวตน” ของกลุ่มคนที่เรียกกันว่า “นอนไบนารี” (Non binary) ออร์ลันโดและเจ๋ เป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่ระบุว่าตัวเองไม่ใช่ทั้งหญิงและชาย หากแต่มีความลื่นไหลทางเพศ (Gender Fluid/fluidity) ที่สามารถเปลี่ยนแปลงและนิยามอัตลักษณ์ของตนกลับไปกลับมาได้ ในช่วงเวลาต่าง ๆ ของชีวิต “เหมือนสายลมและสายน้ำที่เปลี่ยนแปรไปมาอยู่เสมอแม้เพียงข้ามคืน”
แม้ออร์ลันโดจะเป็นนักดนตรีฝีมือเอก และมีพรสวรรค์ในการบรรเลงบทเพลงราวฟ้าประทาน แต่เจ๋ผู้มีทักษะทางเปียโนกระท่อนกระแท่น ดูจะเป็นผู้โชคดีกว่า เพราะเขาได้มีชีวิตต่อมาเพื่อบรรเลงเพลงบทใหม่ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความจริงแท้ของตนเอง
คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ Orlando in a Glimpse หากเล่าถึงออร์ลันโด ของ ลาดิด ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทนวนิยาย ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗