นวนิยายเรื่องน้ำเล่นไฟของกฤษณา อโศกสิน นำเสนอคุณค่าของอาชีพเกษตรกรรม ผ่านเรื่องราวของครอบครัวเกษตรกรหัวก้าวหน้าไปพร้อมกับครอบครัวเศรษฐีเจ้าของตลาดสดสมัยใหม่ ทั้งสองครอบครัวมีลักษณะที่เหมือนกันคือประกอบอาชีพด้วยจิตใจมุ่งมั่น ขยันขันแข็ง อดทน และดำรงตนด้วยความซื่อสัตย์ อดออม ประกอบกับใช้สติปัญญาความรู้ที่สืบทอดจากภูมิปัญญาดั้งเดิมของบรรพบุรุษ และนำแนวพระราชดำริเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่และหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการทำมาหาเลี้ยงชีพและดำรงตน ให้พอดี พอประมาณ และพอใจ อันสร้างความสุขแก่บุคคลและสังคมอย่างยั่งยืน เส้นทางของเกษตรกรผู้ผลิตสินค้าคุณภาพ ปลอดสารพิษ ที่ใส่ความรักความอาทรลงในทุกพืชผลและพื้นดิน รับผิดชอบต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม จึงมาบรรจบกับนายทุนเจ้าของตลาดผู้มีเจตนารมณ์ในการจำหน่ายสินค้าดี สร้างเสริมคุณภาพชีวิตแก่ผู้บริโภค พร้อมกับดำเนินธุรกิจของตนให้เป็นตลาดสดครบวงจรที่สะอาด สะดวก ปลอดภัย เป็นธรรม และเป็นมิตรทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ
นายทุนและเกษตรกรดูเหมือนจะเป็นคู่ตรงข้าม โดยฝ่ายหนึ่งเป็นผู้เอาเปรียบ อีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้เสียเปรียบ แต่ในนวนิยายเรื่องนี้ ผู้ประพันธ์แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่แลดูเหมือนอยู่คนละขั้ว คนละฝ่าย อาจจะไม่ใช่สิ่งที่แย้งกัน หากแต่อาจจะเป็นสิ่งที่เสริมให้อีกฝ่ายหนึ่งโดดเด่นขึ้นเมื่อความสัมพันธ์นั้นเดินไปตามธรรมะ ตามธรรมชาติ น้ำเป็นสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับไฟ หากแต่แสงเจิดจ้าของไฟที่ส่องกระทบน้ำทำให้เกิดประกายระยิบระยับ คลื่นน้ำและแสงไฟจึงเล่นล้อกันไปมาเป็นภาพงดงามจับใจ ดังข้อความที่ผู้ประพันธ์บรรยายไว้ว่า “เมื่อยามลมพันมาพาเอาระลอกน้ำในนากุ้งแล่นละลิ่วพลิ้วตามกัน ครั้นกระทบแสงอาทิตย์อันกราดกล้า ก็ยิ่งสะท้อนประกายพาให้น้ำระยิบระยับจับนัยน์ตามจำเริญใจ” ดังนั้น นวนิยายเรื่องน้ำเล่นไฟจึงเสนอให้เห็นว่านายทุนเกษตรกรต่างต้องพึ่งพาเกื้อกูลส่งเสริมซึ่งกันและกัน อันเป็นการดำเนินเศรษฐกิจแบบสร้างสรรค์ โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมคุณภาพของชีวิต คุณภาพของสังคม คุณภาพของประเทศชาติ และคุณภาพของประชาคมโลกในที่สุดถึงแม้ว่านวนิยายเรื่องนี้จะนำเสนอประเด็นทางสังคมที่หนักหน่วง แต่ผู้ประพันธ์ก็มิได้ละเลยเสน่ห์ของนวนิยายที่ชวนอ่านด้วยการสร้างปมขัดแย้งในครอบครัว ปมขัดแย้งในใจของตัวละคร และความไม่ลงรอยกันของตัวละครคู่เอก ซึ่งในที่สุดก็คลี่คลายลงด้วยดี เพราะมีความรักและอุดมคติไปในทิศทางเดียวกัน
ด้วยเหตุที่นวนิยายเรื่องน้ำเล่นไฟมีความโดดเด่นในด้านเนื้อหาแนวคิดที่สร้างสรรค์ การสร้างตัวละครที่มีชีวิตชีวา การนำเสนอรสอารมณ์ที่บันเทิงใจ ภาษาและกลศิลป์ที่เนียนงามด้วยฝีมือของผู้ประพันธ์ที่ได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ คณะกรรมการจึงมีมติให้นวนิยายเรื่องนี้ได้รับรางวัลชนะเลศ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประจำปี 2554