นวนิยายเล่มบางเรื่องในรูปเงา ของ เงาจันทร์  ผูกเรื่องจากปมของความรักและความแค้นอันเป็นกิเลสสำคัญที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตมนุษย์จากหน้ามือเป็นหลังมือ   นวนิยายเรื่องนี้ใช้โครงเรื่องตามขนบที่นิยมกันแบบหนึ่ง คือ โครงเรื่องรักสามเส้า  ซึ่งมี 2 วงเหลื่อมซ้อนกัน  วงแรกคือความรักของพร้อม พลิ้ว และเจ้าดอกรุงรัง  ซึ่งเป็นวัวที่พร้อมซื้อมาให้พลิ้วเลี้ยงตั้งแต่ยังเล็ก  แต่เขาเคยเขียนตีมันอย่างรุนแรงเพื่อระบายความเจ็บแค้นในใจ  เจ้าดอกรุงรังจึงอาฆาตแค้นพร้อมไม่รู้เลิกรา  พลิ้วจึงมีทั้งความรักและความแค้นให้เจ้าวัวเลี้ยงของตนไปพร้อม ๆ กัน  รักสามเส้าวงที่สองคือความรักของพร้อม พลิ้ว และว่าน  พลิ้วรักว่าน แต่ว่านรักพร้อม  ส่วนพร้อมก็รักลูกชายของตนจึงยอมเก็บงำความลับเร้นเอาไว้  เมื่อพลิ้วล่วงรู้โศกนาฏกรรมจึงเกิดขึ้น   เจ้าดอกรุงรังและว่านจึงพรากพร้อมและพลิ้วให้จากกันชั่วนิรันดร์กาล

นวนิยายเรื่องนี้เป็นงานวรรณศิลป์ที่นำเสนอเรื่องเสน่หาอารมณ์อันเป็นธรรมชาติของสรรพสัตว์  นอกจากความรักความใคร่ของมนุษย์แล้ว  ฉากของวัวหนุ่มกับวัวสาวที่กำลังติดสัด  จริตของวัวสาวที่เย้ายวนวัวหนุ่มที่มันหมายปอง  วัวสาวใจเสรีที่เลือกวัวหนุ่มแปลกหน้ามากกว่าวัวหนุ่มในฝูง  ฉากหึงหวงของเหล่าวัวหนุ่มกลัดมันที่กลุ้มรุมทำร้ายวัวต่างถิ่นที่ได้ใจวัวสาวไปครอง  ฉากอันน่าตื่นเต้นระทึกใจเหล่านี้ล้วนเป็นภาพสะท้อนของพฤติกรรมมนุษย์อย่างแยบคาย   ดังนั้น เหล่าวัวในท้องทุ่ง  โดยเฉพาะเจ้าดอกรุงรัง  จึงไม่ใช่เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงประกอบฉากทุ่งนา  หากแต่เป็นเงาสะท้อนกลับไปกลับมาระหว่างธรรมชาติสัตว์กับธรรมชาติมนุษย์   โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากจบของเรื่อง  การชำระแค้นตามสัญชาตญาณของสัตว์ที่ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส  กับการคุมแค้นของมนุษย์จนสามารถปล่อยให้ความตายเกิดขึ้นต่อหน้าต่อหน้าโดยไม่แยแส  กลมกลืนรวมเป็นเนื้อเดียวกันจนไม่มีอะไรแตกต่าง ไม่ว่าคนหรือสัตว์ล้วนมีความดิบ เถื่อน ของสัญชาตญาณมืด  ซึ่งหากขาดการควบคุมเสียแล้ว  มนุษย์ผู้ประเสริฐก็ไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉาน เพียงวาบเดียวของโทสะจริต ก็สามารถทำลายความรักและบุคคลที่รักได้หมดสิ้น  นวนิยายเรื่องนี้จึงเป็นโศกนาฏกรรมที่บีบหัวใจผู้อ่านไม่แพ้นวนิยายรักคลาสสิกในอดีต

ความรัก ความแค้น ความสวยงาม  ความโหดร้าย  ความนุ่มนวล  ความดิบเถื่อน  ต่างสอดร้อยกันไปมาอยู่ในพฤติกรรม  ในอารมณ์ของมนุษย์และสัตว์  ในสีสันของต้นไม้ ดอกไม้ ของฝูงแมงปอริมคลองอันร่มรื่น   ในรูปเงาที่เต้นไหวอยู่บนรั้วขัดแตะ  เป็นองค์ประกอบที่จัดวางไว้ลงตัว ไม่ขาดไม่เกิน และหนุนส่งให้เรื่องราวในนวนิยายดำเนินไปอย่างมีพลังอารมณ์เข้มข้น

ในรูปเงา เป็นนวนิยายที่สามารถตรึงผู้อ่านไว้กับตัวหนังสือตั้งแต่หน้าแรกไปจนหน้าสุดท้าย  ระหว่างที่อ่านจะรู้สึกว่าเส้นประสาทกล้ามเนื้อขมวดเขม็งบิดเกลียวอยู่ข้างใน  ใจเต้นระทึกตึกตัก  บางครั้งรู้สึกเหมือนลืมหายใจ จนต้องระบายลมหายใจเฮือกใหญ่ที่กลั้นไว้อย่างไม่รู้ตัวเมื่อปิดหน้าหนังสือลง