“สองฝั่งแม่น้ำเก่า” รูปรอยของคืนวันบนผืนดินและแผ่นน้ำโบราณ ของ “ลอง จ้องรวี” เป็นรวมบทกวี ประกอบด้วยสองบรรพ์คือ บรรพ์ ๑ บ้านที่เราเกิด และบรรพ์ ๒ แผ่นดินที่เราฝัน ผู้เขียนนำเสนอความทรงจำของชีวิตวัยเยาว์ที่มีความสุขในชนบทบ้านเกิด วิถีชีวิตเรียบง่ายและความรักจากครอบครัวหล่อหลอมให้รักและตระหนักในคุณค่าของผืนดินบ้านเกิด

          “บ้านของอดีตยังติดตรึง            ในความคะนึงคิดถึงหนัก

          เป็นบ้านงดงามด้วยความรัก                 รู้จัก “การให้” น้ำใจงาม”

ความเปลี่ยนแปลงของวิถีสมัยใหม่เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงและ “บ้านหลังเก่า” มีอยู่เพียงในความทรงจำ กระนั้นก็ยังคงทรงคุณค่าทางจิตใจและเป็นที่สร้างแรงบันดาลใจ สร้างไฟฝันให้ต่อสู้ชีวิตใน “โลกที่ไม่มีอะไรง่าย อย่าอายที่จะแพ้”

          “การแพ้ก็แค่คัดและตัดสิน         ใช่สูญสิ้นดิ้นดับอย่าสับสน

          แพ้ก็แค่เห็นธรรมใช่จำนน                    ยอมเพื่อยลและยินจิตวิญญาณ

                    การพ่ายแพ้แค่เป็นศิลปะ           ชัยชนะแค่คำเพรียกใช้เรียกขาน

          อุปโลกน์โลกในรูปอุปาทาน                   มิใช่การชี้วัดที่ชัดเจน”

 

ด้านศิลปะการประพันธ์ ใช้กลอนแปดด้วยลีลาและภาษาที่เรียบง่าย สื่อความ สร้างจินตภาพและอารมณ์ บางบทยังใช้ความเปรียบที่มีลักษณะเฉพาะตน เช่นในบท “แม่เป็นนวัตกรรมมานานแล้ว”

“เป็นคอมพิวเตอร์เสมอมา ลูกจะค้นหาอะไรก็ได้

          ความจำคำตอบคำปลอบใจ                  มีให้ลูกค้นทุกคนเอย”

ดังนั้น คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ รวมบทกวี “สองฝั่งแม่น้ำเก่า” ของ “ลอง จ้องรวี” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทกวีนิพนธ์ ประจำพุทธศักราช ๒๕๖๓