กระต่ายกับเต่า ภาค ๒ เราไม่วิ่งแข่งกันแล้ว เขียนโดย ฮ. นิกฮูกี้ เป็นการนำเอาโครงเรื่องของนิทานอีสป อมตะนิทานของโลกมาสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ให้เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่แฝงพุทธปรัชญา โดยมุ่งสอนผู้อ่านทั้งเด็กและผู้ใหญ่ให้เข้าใจ และเห็นจริงว่าเรสามารถนำธรรมะมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมโลกปัจจุบันคืสังคมแห่งการแช่งชัน ผู้คนจำนวนหนึ่งคิดอย่างกระต่ายคือมีความสุขกับการมุ่งเอาชนะกับผู้อื่น หนังสือเล่มนี้กลับทำให้เราหยุดพินิจความคิดของเต่าที่รู้สึกว่า การชนะใจตนเองเป็นสิ่งยิ่งใหญ่และให้ความปิติยิ่งกว่า เต่าจึงไมโกรธกับคำสบประมาทของกระต่ายและไม่โง่ที่ จะกระโจนเข้าสู่การแข่งขันที่ไร้ประโยชน์ นอกจากให้ความคิดเรื่อง “ความพอเพียง”‘แล้ว หนังสือเล่มนี้ยังให้ความคิดเรื่อง “ความพอดี’ โดยนำหลักพรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา กรุณามุทิตา อุเบกขา มานำเสนอในเหตุการณ์ต่างๆ ระหว่างการเดินทางของครอบครัวเต่าซึ่งเปรียบได้กับการเดินทางของชีวิตมนุษย์ ผู้เขียนมีกลวิธีการนำเสนออย่างแยบยลด้วยบทสนทนาโต้แย้งระหว่างพ่อเต่ากับลูกเต่า ที่แสดงให้เห็นว่า แม้ว่าคนเราจะมีหลักคิดแต่ต้องมีวิจารณญาน ในการนำมาปฏิบัติให้เหมาะสม อย่างเช่น พ่อเต่าบอกลูกเต่าว่าควรช่วยเหลือผู้อื่นหากไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน และรู้จักปล่อยวางเมื่อไม่สามารถช่วยได้ พ่อเต่าห้ามไม่ให้ลูกเต่าช่วยชีวิตปลาดุกปลาช่อนโดยแบกใส่หลังเดินทางไปด้วยกัน พราะจะพลอยทำให้ตาย
หมดก่อนเดินทางถึงจุดหมาย พ่อเต่าไม่ช่วยปล่อยนักโทษประหารเพราะเขาเป็นคนเลวต้องได้รับกรรมตามที่กระทำไว้ แต่พ่อเต่ากลับช่วยชีวิตกระต่ายหลายครั้งทั้งๆ ที่กระต่ายดูหมิ่นเหยียดหยามและกลั่นแกล้งต่างต่างนานา เพราะมีเหตุผลว่าสามารถช่วยได้โดยไม่เดือดร้อนและหวังว่ากระต่ายจะกลับตัวกลับใจประพฤติตนดีขึ้น แต่หากกระต่ายไม่ทำตัวดีขึ้น เต่าก็
ไม่เดือดร้อนใจแต่อย่างใด ถือว่าเป็นเรื่องของกระต่ายไม่ใช่เรื่องของตน เต่าทำตนเป็นแบบอย่างแก่ลูกเต่าว่ายึดมั่นในศีลและในธรรมไม่ปล่อยให้ตกอยู่ในอำนาจของกิเลสใดๆ หนังสือเล่มนี้ยังแสดงให้เห็นว่า การยึดมั่นในหลักธรรมอื่นๆ เช่น ความกตัญญู ความรู้สึกสำนึกผิดการให้อภัย ความมีสติ ความมีปัญญา ฯลฯ ย่อมนำชีวิตและโลกไปสู่สันติสุขอย่างแท้จริงหนังสือเล่มนี้จึงเป็นวรรณกรรมเยาวชนที่เหมาะแก่ผู้อ่านทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ให้ข้อคิดที่สอดคล้องกับสังคมในปัจจุบัน เนื้อหาอ่านสนุกและวิธีเล่าเรื่องชวนอ่าน ภาพประกอบที่สวยงามและเหมาะสมกับเนื้อเรื่องสร้างความรื่นรมย์ในการอ่านยิ่งขึ้น บทสนทนาและข้อขัดแย้งในตัวเรื่องทำให้ต้องครุ่นคิดและเกิดปัญญา ผู้ใหญ่สามารถนำหนังสือเล่มนี้ไปใช้สอนเด็กได้อย่างดี
กระต่ายกับเต่า ภาค๒ เราไม่วิ่งแข่งกันแล้ว จึงสมควรได้รับยกย่องเป็นหนังสือ ดีเด่นรางวัล “เชเว่นบุ๊คอวอร์ด” ประเภท “วรรณกรรมสำหรับเยาวชน” ประจำปี ๒๕๔๘